พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง

            


       ฟอสซิลไดโนเสาร์ชิ้นแรกของไทยพบที่อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น ในปี 2519 โดยนายสุธรรม แย้มนิยม อดีตนักธรณีวิทยาของกรมทรัพยากรธรณี ขณะสำรวจแร่ยูเรเนียม ในหมวดหินเสาขัว ที่อุทยานแห่งชาติภูเวียง บริเวณห้วยประตูตีหมา กระดูกชิ้นนี้มีความกว้างยาวประมาณ 1 ฟุต จากการเปรียบเทียบพบว่ามีลักษณะใกล้เคียงกับไดโนเสาร์ซอโรพอด ซึ่งมีขนาดใหญ่ยาวประมาณ 15 เมตร และจากการตรวจสอบพบว่าเป็นส่วนปลายล่างสุดของกระดูกต้นขาของไดโนเสาร์จำพวกกินพืช การสำรวจไดโนเสาร์ที่ภูเวียงได้เริ่มต้นอย่างจริงจังในปี 2524 โดยนายเชิงชาย ไกรคง นักธรณีวิทยาจากกรมทรัพยากรธรณี ได้พาคณะสำรวจโบราณชีววิทยาไทย และฝรั่งเศสขึ้นไปสำรวจกระดูกไดโนเสาร์บริเวณยอดห้วยประตูตีหมา อำเภอภูเวียงคณะสำรวจพบกระดูกไดโนเสาร์ชนิดกินพืชขนาดใหญ่ รวมทั้งฟันจระเข้ กระดองเต่า ฟันและเกล็ดปลาโบราณ และจากการสำรวจในเวลาต่อมาได้พบกระดูกไดโนเสาร์อีกหลายชนิด ศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียงจัดตั้งขึ้น โดยความร่วมมือของกรมทรัพยากรธรณี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และจังหวัดขอนแก่น เพื่อเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าของนักวิชาการ สำหรับให้การศึกษาแก่เยาวชน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดขอนแก่น
     แหล่งขุดค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์ ภายหลังจากการค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์ชิ้นแรกแล้ว ต่อมาได้มีการขุดค้นพบซากฟอสซิลรวมถึงรอยเท้าไดโนเสาร์ รวม 9 หลุม ดังนี้
ลุมที่ 1 (ประตูตีหมา)พบกระดูกไดโนเสาร์ขนาดใหญ่จำนวนมากเรียงรายอยู่ในชั้นหิน

หลุมที่ 2 (ถ้ำเจีย)
พบกระดูกส่วนคอของไดโนเสาร์ซอโรพอดเรียงต่อกัน จำนวน 6 ชิ้น

หลุมที่ 3 (ห้วยประตูตีหมา)
พบกระดูกสันหลัง กระดูกซี่โครงหลายชิ้น ของไดโนเสาร์กินพืชขนาดใหญ่

หลุมที่ 4 (โนนสาวเอ้)พบฟอสซิลกระจายเป็นบริเวณกว้างกว่า 10 ตารางเมตร ประกอบด้วยกระดูกไดโนเสาร์ซอโรพอดขนาดใหญ่ และที่อยู่ในวัยเยาว์ นอกจากนั้นยังพบเกล็ดปลาเลปิโดเทสและกระดองเต่า

หลุมที่ 5 (ซำหญ้าคา) หลุมที่ 6 (ดงเค็ง) และหลุมที่ 7 (ภูน้อย)พบไดโนเสาร์ทั้งขนาดใหญ่และที่ยังเยาว์ และยังพบฟอสซิลของจระเข้ขนาดเล็กอีกด้วย

หลุมที่ 8 (หินลาดป่าชาด)
พบรอยเท้าไดโนเสาร์ มากกว่า 60 รอยใน 10 แนวทางเดิน เป็นของไดโนเสาร์พวกกินเนื้อขนาดเล็ก ซึ่งเดินด้วย 2 ขาหลัง

หลุมที่ 9 (หินลาดยาว)พบกระดูกสันหลังหลายชิ้นโผล่มาจากชั้นหินทรายสีแดงของหมวดหินเสาขัว และยังพบส่วนของสะโพกด้านซ้ายและกระดูกส่วนหางกว่า 10 ชิ้น ของพวกไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 6.5 เมตร

สถานที่ตั้ง 
     ศูนย์ศึกษาวิจัยแลพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง ตั้งอยู่ใกล้อุทยานแห่งชาติภูเวียง อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น โดยอยู่ห่างจากตัวจังหวัดขอนแก่นไปทางทิศตะวันตกเป็นระยะทางประมาณ 87 กิโลเมตร การเข้าถึงพื้นที่ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 12 ซึ่งเป็นถนนสายยาว ติดต่อจากจังหวัดตากทางด้านทิศตะวันตกผ่านจังหวัดสุโขทัย พิษณุโลก อำเภอหล่มสัก อำเภอชุมแพไปสิ้นสุดที่จังหวัดขอนแก่น โดยหากเริ่มจากจังหวัดขอนแก่นให้ใช้เส้นทางไปชุมแพ และแยกขวาเข้าอำเภอภูเวียง ตามเส้นทางหลวงสาย 2038 ซึ่งปากทางเข้าอยู่เลยอำเภอหนองเรือไปเล็กน้อย หรือหากเริ่มต้นจากอำเภอชุมแพให้ไปทางขอนแก่นแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทางหลวงสาย 2038 เช่นเดียวกัน เมื่อเลยอำเภอภูเวียงเล็กน้อยให้ใช้เส้นทางตรงไปอุทยานแห่งชาติภูเวียง ศูนย์ศึกษาวิจัยฯ ก่อนถึงอุทยานฯ ประมาณ 3 กิโลเมตร การ

ให้บริการ
     เปิดให้บริการ ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ 
โทร. (043) 438204-6 ประชาชนสามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ภายในอาคารส่วนหนึ่งจัดแสดง
เรื่องราวของการขุดค้นพบไดโนเสาร์ ที่จังหวัดขอนแก่นและใกล้เคียง เพื่อเผยแพร่ผลงานของกรมทรัพยากรธรณีให้กับ
นักท่องเที่ยว ส่วนที่เหลือจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับการกำเนิดโลก กำเนิดหิน แร่ วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต และสิ่งสำคัญ
ที่เป็นเอกลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ และทางธรรมชาติของจังหวัดขอนแก่น เพื่อให้ความรู้กับเยาวชน และผู้ที่สนใจ







ที่มา  http://www.dmr.go.th/main.php?filename=museum3




อุทยานแห่งชาติภูเวียง



            การเดินทางอุทยานแห่งชาติภูเวียงอยู่ห่างจากจังหวัดขอนแก่น 86 กิโลเมตร จากจังหวัดขอนแก่น
 ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 (ขอนแก่น-ชุมแพ) ผ่านอำเภอบ้านฝาง อำเภอหนองเรือ ถึงทางแยกไ
อำเภอภูเวียงระยะทางประมาณ 48 กิโลเมตร จึงแยกตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2038 ไป
ประมาณ 38 กิโลเมตร ผ่านตัวอำเภอภูเวียง และหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ภว.1 (ปากช่องภูเวียง) 
ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูเวียงที่ภูประตูตีหมา
 ค่าเข้าชม คนไทยผู้ใหญ่ 4บาท เด็ก 2บาท /ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 10บาท อัตราค่าบริการ
 สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยลด 50 เปอร์เซ็นต์ วันจันทร์-วันศุกร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ 
ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม-31 ธันวาคม 2558 ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
สิ่งอำนวยความสะดวก มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ร้านอาหาร บ้านพัก ลานกางเต็นท์  สามารถติดต่อได้ที่ 
อุทยานแห่งชาติภูเวียง ตู้ ปณ.1 ต.ในเมือง  อ. ภูเวียง  จ. ขอนแก่น   40150 โทรศัพท์ 08 5852 1771    
สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โทร. 0 2562 0760 เว็บไซต์ www.dnp.go.th
เดินทางอย่างไร
จากตัวเมืองขอนแก่นใช้เส้นทางขอนแก่น-ชุมแพ (ทางหลวงหมายเลข 12) เป็นระยะทาง 48 กิโลเมตร แยกขวาเข้า
ทางหลวงหมายเลข 2038 เป็นระยะทาง 18 กิโลเมตร ถึงอำเภอภูเวียง แล้วใช้เส้นทางภูเวียง-บ้านเมืองใหม่ ไปจนถึง
กิโลเมตรที่ 23 จะเป็นบริเวณที่เรียกว่า “ปากช่องภูเวียง” มีหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติภูเวียงตั้งอยู่เพื่อให้บริการ
สอบถามข้อมูลการเที่ยวชม
 เดินทางต่อไปจนถึงกิโลเมตรที่ 30 เลี้ยวซ้ายตรงทางเข้าอ่างเก็บน้ำบ้านโพธิ์ เป็นระยะทาง 7.7 กิโลเมตร ถึงที่ทำการ
อุทยานแห่งชาติภูเวียง ที่ภูประตูตีหมา ภายในอาคารมีการจัดแสดงซากกระดูกส่วนต่างๆ ของไดโนเสาร์ที่ขุดพบ
บริเวณภูเวียง โดยมีคำอธิบายการลักษณะและการเกิดซากต่างๆ








ที่มา  http://thai.tourismthailand.org/

อุทยานไดโนเสาร์ศรีเวียง

 
  อุทยานไดโนเสาร์ศรีเวียง อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของตำบลเมืองเก่าพัฒนา อำเภอเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น เป็นสวนสาธารณะริมเส้นทางระหว่างทางไปอุทยานแห่งชาติภูเวียง มีพื้นที่ 25 ไร่ มีฉากหลังเป็นเทือกเขาภูเวียง อุทยานแห่งนี้สร้างเสร็จเมื่อ 19 ธันวาคม 2550
      ในบริเวณจัดทำเป็นสวนพักผ่อน สวนสุขภาพ มีโขดหิน น้ำตก บ่อน้ำ สวนหย่อม สนามนั่งเล่น มีหุ่นไดโนเสาร์จำลองเรียงรายทั่วบริเวณนับร้อยตัว บางตัวสามารถร้องได้ เคลื่อนไหวได้คล้ายของจริงโดยต้องหยอดเงินที่ตู้  เป็นไดโนเสาร์ที่มีการค้นพบฟอสซิลในภาคอีสาน 
       การเดินทาง ใช้เส้นทางเดียวกับทางไปอุทยานแห่งชาติภูเวียง โดยเดินทางจากขอนแก่นถึงอำเภอภูเวียงระยะทาง 70 กิโลเมตร และเดินทางจากตัวอำเภอต่อไปอีก 7 กิโลเมตร จะเห็นอุทยานไดโนเสาร์ศรีเวียงอยู่ด้านซ้ายมือ 
สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ 
      ที่จอดรถ ไม่มีที่จอดระสำหรับคนพิการ แต่ที่จอดรถเป็นลานกว้างใกล้ทางเข้าออกอุทยาน  ทางเดินทางเชื่อม อยู่ระดับเดียวกันกับพื้นภายนอก บางพื้นที่เป็นพื้นขรุขระเป็นกรวดใหญ่และแผ่นหินวางเว้นร่อง ยากแก่การสัญจร  มีทางลาดเข้าสู่บริเวณอุทยาน บันได พื้นผิววัสดุไม่ลื่น 








ที่มา http://thai.tourismthailand.org/

น้ำตกตาดฟ้า

      น้ำตกตาดฟ้า 

      น้ำตกตาดฟ้า คืออีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของอุทยานแห่งชาติภูเวียง อุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองภูเวียง จังหวัดขอนแก่น อยู่ห่างจากทุ่งใหญ่เสาอารามประมาณ 5 กิโลเมตร และห่างจากบ้านโคกสูงประมาณ 10 กิโลเมตร 

      น้ำตกตาดฟ้า เป็นน้ำตกขนาดกลางอยู่ทางทิศเหนือของเทือกเขาภูเวียง มีเส้นทางเดินเท้าขึ้นเขาระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร จากด่านตรวจโคกสูง มีความสูงประมาณ 15 เมตร สภาพป่าเป็นป่าดิบที่อุดมสมบูรณ์ ทางอุทยานแห่งชาติได้จัดสถานที่กางเต็นท์ไว้ให้สำหรับผู้ประสงค์จะพักแรม 
      น้ำตกตาดฟ้า 

   
   สถานที่ติดต่อ อุทยานแห่งชาติภูเวียง ต.ในเมือง อ. เวียงเก่า จ. ขอนแก่น 40150 โทรศัพท์ 0 4335 8073 (VoIP) 
โทรสาร 0 4335 8073 (VoIP) อีเมล Phuwiangnp71@hotmail.com 


      การเดินทาง 

      รถยนต์ 

      จากจังหวัดขอนแก่น ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 (ขอนแก่น-ชุมแพ) ผ่านอำเภอบ้านฝาง อำเภอหนองเรือ ถึงทางแยกไปอำเภอภูเวียง ระยะทางประมาณ 48 กิโลเมตร จึงแยกตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2038 ไปประมาณ 38 กิโลเมตร จึงถึงอุทยานแห่งชาติภูเวียง 

      จากปากช่องภูเวียงซึ่งเป็นที่ตั้งหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ภว.1 (ปากช่อง) ตั้งอยู่ริมน้ำพอง บริเวณนี้ยังมีศาลเวียงภูเวียงตั้งอยู่เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั่วไป และมีรถรับจ้างสามล้อเครื่องจากอำเภอภูเวียงถึงที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ภว.1 (ปากช่อง) และเดินทางต่อไปอีกประมาณ 14 กิโลเมตร ตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2038 จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 


มีผี้เสื้อช่วงหน้าฝน 




ที่มา http://travel.thaiza.com/
     

วัดถ้ำผาเกิ้ง

         วัดถ้ำผาเกิ้งเป็นสถานปฏิบัติธรรมทางพระพุทธศาสนา บรรยากาศร่มรื่นสถานที่กว้างขวางบริเวณวัดมีศาลาไม้ขนาดใหญ่เป็นการรวมแรงกายแรงใจ และแรงศรัทธาอันบริสุทธิ์ของชาวบ้านโคกหนองขามและหมู่บ้านใกล้เคียง ภายในอำเภอเวียงเก่า และศรัทธาจากจังหวัดขอนแก่น 
วัดถ้ำผาเกิ้ง ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูเวียง ห่างจากบ้านหนองดู่ หมู่ที่ 12 ต.ในเมือง อ.เวียงเก่า จ.ขอนแก่น ประมาณ 6 กิโลเมตร 
ลักษณะเด่น คือ พระพุทธรูปแกะสลักด้วยไม้ปัจจุบัน









ที่มา http://thai.tourismthailand.org/
        http://www.thetravel-number-1.com/board/index.php?topic=471.0